เมื่อเดินทางด้วย เครื่องบิน สิ่งที่หลายคนต้องคำนึงถึงเสมอคือเรื่องของขนาดกระเป๋า น้ำหนักที่อนุญาต และค่าใช้จ่ายในการโหลดกระเป๋า แต่ละสายการบินต่างก็มีนโยบายเกี่ยวกับกระเป๋าเดินทางที่แตกต่างกันไป
ดังนั้น เพื่อให้การเดินทางราบรื่น มาทบทวนรายละเอียดสำคัญที่จำเป็นต้องรู้ไว้กัน
ขนาดของกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องที่นิยมใช้
- ขนาด 16 นิ้ว: ถือขึ้นเครื่องได้ เหมาะกับทริป 1-2 วัน
- ขนาด 18 นิ้ว: ถือขึ้นเครื่องได้ เหมาะกับทริป 2-3 วัน
- ขนาด 22 นิ้ว: ถือขึ้นเครื่องได้ ใหญ่สุดที่อนุญาตถือขึ้นเครื่อง เหมาะกับทริป 2-4 วัน
- ขนาด 24 นิ้ว: ต้องโหลดใต้เครื่อง เหมาะกับทริป 5 วัน – 1 สัปดาห์
- ขนาด 26 นิ้ว: ต้องโหลดใต้เครื่อง เหมาะกับทริป 1 สัปดาห์ – 10 วัน
- ขนาด 28 นิ้ว: ต้องโหลดใต้เครื่อง เหมาะกับทริปไม่เกิน 2 สัปดาห์
กระเป๋าแบบไหนถือขึ้นเครื่องบินได้บ้าง?
กระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage) โดยทั่วไป คือกระเป๋าที่มีขนาดไม่เกิน 22 นิ้ว น้ำหนักรวมไม่เกิน 7 กิโลกรัม เก็บในช่องสัมภาระเหนือศีรษะหรือใต้ที่นั่งด้านหน้า โดยห้ามมีของมีคม ของเหลวเกิน 50 ml, เพาเวอร์แบงค์เกิน 20,000 mAh หรืออาหารกลิ่นแรง
กระเป๋าที่โหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage) คือ กระเป๋าขนาด 24 นิ้วขึ้นไป น้ำหนักตามสายการบินกำหนด (ประมาณ 15-40 กก.) โดยห้ามมีสิ่งของต้องห้ามตามกฎหมาย, ของมีค่า, อุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี เช่น เพาเวอร์แบงค์หรือบุหรี่ไฟฟ้า
สรุปเงื่อนไขสำคัญของแต่ละสายการบินในไทย
- การบินไทย (Thai Airways)
- ถือขึ้นเครื่อง: ไม่เกิน 7 กก. ขนาดไม่เกิน 25x45x56 ซม.
- โหลดใต้เครื่อง:
- ชั้นประหยัด: 20-35 กก.
- ชั้นธุรกิจ: 40 กก.
- ชั้นหนึ่ง: 50 กก.
- ค่าน้ำหนักเกิน: ในประเทศ ประมาณ 55-125 บาท/กก. ต่างประเทศ ประมาณ 12-70 USD/กก.
- ไทยสมายล์ (Thai Smile)
- ถือขึ้นเครื่อง: ไม่เกิน 7 กก. ขนาดไม่เกิน 25x45x56 ซม.
- โหลดใต้เครื่อง:
- ชั้นพรีเมียม: 30-40 กก.
- ชั้นประหยัด: 20-30 กก.
- ค่าน้ำหนักเกิน: ภายในประเทศ 180 บาท/กก. ระหว่างประเทศ ประมาณ 405-540 บาท/กก.
- บางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways)
- ถือขึ้นเครื่อง: ไม่เกิน 5 กก. ขนาด 23x36x50-56 ซม. ขึ้นกับประเภทเครื่องบิน
- โหลดใต้เครื่อง:
- ชั้นประหยัด: 20 กก.
- ชั้นธุรกิจ: 40 กก.
- ค่าน้ำหนักเกิน: ภายในประเทศ 180 บาท/กก. ต่างประเทศ 11-60 USD/กก.
- นกแอร์ (Nok Air)
- ถือขึ้นเครื่อง: ไม่เกิน 7 กก. ขนาดไม่เกิน 23x36x56 ซม.
- โหลดใต้เครื่อง: 15-30 กก. ขึ้นกับประเภทตั๋ว
- ค่าน้ำหนักเกิน: ภายในประเทศ 400 บาท/กก. ต่างประเทศ 500 บาท/กก.
- ไทยเวียตเจ็ทแอร์ (Thai Vietjet Air)
- ถือขึ้นเครื่อง: ไม่เกิน 7 กก. ขนาดไม่เกิน 23x36x56 ซม.
- โหลดใต้เครื่อง: สูงสุด 32 กก. ต่อใบ
- ค่าน้ำหนักเกิน: ภายในประเทศ 320 บาท/กก. ต่างประเทศ 450-650 บาท/กก.
- แอร์เอเชีย (AirAsia)
- ถือขึ้นเครื่อง: 2 ใบรวมกันไม่เกิน 7 กก.
- โหลดใต้เครื่อง: 20-40 กก. ตามประเภทตั๋ว
- ค่าน้ำหนักเกิน: 455 บาท/กก. (ในประเทศ)
- ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air)
- ถือขึ้นเครื่อง: ไม่เกิน 7 กก. ขนาดไม่เกิน 20x30x40 ซม.
- โหลดใต้เครื่อง: ในประเทศ 10 กก., ต่างประเทศ 20 กก.
- ค่าน้ำหนักเกิน: ในประเทศ 300 บาท/กก. ต่างประเทศ 400-500 บาท/กก.
ใช้บริการฝากและส่งสัมภาระแทนการแบกสัมภาระขึ้นเครื่อง
ถ้าไม่อยากกังวลเรื่องน้ำหนักและขนาดกระเป๋า อีกทางเลือกที่สะดวก คือ ใช้บริการ AIRPORTELs ที่มีบริการรับฝากและขนส่งสัมภาระ ไม่จำกัดขนาดและน้ำหนัก พร้อมบริการรับส่งถึงสนามบิน, โรงแรม หรือห้างสรรพสินค้า ค่าบริการเริ่มต้นเพียง 100 บาท/ชิ้น (ฝาก) หรือ 299 บาท (ส่ง)
สถานที่ให้บริการของ AIRPORTELs เช่น
- สนามบินสุวรรณภูมิ (24 ชม.)
- สนามบินดอนเมือง (06.00-24.00 น.)
- เอ็มบีเค เซ็นเตอร์, เทอร์มินอล 21, เซ็นทรัลเวิลด์, ไอคอนสยาม ฯลฯ (10.00-22.00 น.)